วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ปุงลิงค์ - อการันต์ ครั้งที่ ๖ (วิเสสวิธานใน - คุณวนฺตาทิคณะ)


วิเสสวิธานมุจฺจเตฯ
ต่อไปนี้จะกล่าวถึงแบบพิเศษ
๑๒๕. หิมวโต วา โอ [ก. ๙๔; รู. ๑๐๕; นี. ๒๕๒]ฯ
เพราะสิ  อุ ที่สุดของนฺตุปัจจัยแห่งหิมวนฺตุ เป็น โอ  ได้บ้าง

สิมฺหิ หิมวนฺตสทฺทสฺส โอ โหติ วาฯ คสีนนฺติ โลโปฯ หิมวนฺโต ปพฺพโตว [ธ.ป. ๓๐๔],หิมวา ปพฺพโต.
ในเพราะสิวิภัตติ แปลง อุที่สุดของนฺตุ ปัจจัย แห่ง หิมวนฺตุ เป็น โอ ได้บ้าง. ลบ สิ ด้วยสูตร คสีนํ โลโป (ลบ สิชื่อค และสิอื่นๆ ได้บ้าง)
หิมวนฺโต ปพฺพโตว [ธ. ป. ๓๐๔],
หิมวา ปพฺพโต
เพียงดังภูเขาหิมพานต์[1]


๑๒๖. นฺตสฺส จ ฏ วํเส [ก. ๙๓; รู. ๑๐๖; นี. ๒๕๑]ฯ
เพราะอํและส แปลง นฺต และ นฺตุ ทั้งศัพท์เป็น อ ได้บ้าง.

อํ, เสสุ นฺตสฺส จ นฺตุสฺส จ สพฺพสฺส ฏ โหติ วาฯ ‘‘อชฺโฌคาเหตฺวา หิมว’’นฺติ [อป. เถร ๒.๔๗.๕๙] ปาฬิ.  สติมํ, พนฺธุมํ, คุณวสฺส, สติมสฺส, พนฺธุมสฺสฯ
เพราะอํและ ส แปลง นฺต และ นฺตุ ทั้งศัพท์เป็น อ ได้บ้าง ดังพระบาฬีว่า
(อํ)
อชฺโฌคาเหตฺวา หิมวํ [อป. เถร ๒.๔๗.๕๙]  ครอบคลุมแล้วซึ่งภูเขาหิมพานต์
สติมํ ซึ่งท่านผู้มีสติ
พนฺธุมํ ซึ่งท่านผู้มีพวกพ้อง,
(ส)
คุณวสฺส แก่ (แห่ง) ท่านผู้มีคุณ
สติมสฺส แก่ (แห่ง) ท่านผู้มีสติ
พนฺธุมสฺส แก่ (แห่ง) ท่านผู้มีพวกพ้อง

มหาวุตฺตินา กฺวจิ สิมฺหิ เค จ ปเร นฺตุสฺส อตฺตํ โหติ, ‘‘อตุโล นาม นาเมน, ปญฺญวนฺโต ชุตินฺธโร’’ติ              [พุ. วํ. ๒๑.๑๐] จ ‘‘คติมนฺโต สติมนฺโต, ธิติมนฺโต จ โย อิสี’’ติ [เถรคา. ๑๐๕๒] จ ‘‘จกฺขุมนฺโต มหายโส’’ติ จ ‘‘ตุยฺหํ ปิตา มหาวีร, ปญฺญวนฺต ชุตินฺธรา’’ติ [อป. เถรี ๒.๒.๓๘๙] จ ปาฬีฯ
ด้วยมหาสูตร ในบางแห่ง แปลง นฺตุ เป็น อ เพราะ สิ ปฐมา (ลิงคัตถะ) และ สิ ชื่อ ค อันเป็นเบื้องหลัง  มีพระบาฬีเหล่านี้เป็นหลักฐาน
อตุโล นาม นาเมน, ปญฺญวนฺโต ชุตินฺธโร [พุ. วํ. ๒๑.๑๐]
เรามีชื่อว่า อตุละ โดยชื่อ, เป็นผู้มีปัญญา ทรงความรุ่งเรืองไว้.

คติมนฺโต สติมนฺโต, ธิติมนฺโต จ โย อิสิ [เถรคา. ๑๐๕๒]
ท่านใด เป็นผู้แสวงหาคุณ เป็นผู้มีคติ มีสติ และมีความตั้งมั่น.

จกฺขุมนฺโต มหายโส
พระผู้มียศยิ่งใหญ่ มีจักษุ

ตุยฺหํ ปิตา มหาวีร, ปญฺญวนฺต ชุตินฺธร [อป. เถรี ๒.๒.๓๘๙]
ข้าแต่พระมหาวีระ (ผู้แกล้วกล้า) ผู้มีปัญญา ทรงความรุ่งเรืองไว้ บิดาของท่าน.

ปฐมาโยมฺหิ กฺวจิ นฺตุสฺส ฏ โหติ, วคฺคุมุทาตีริยา ปน ภิกฺขู วณฺณวา โหนฺติ [ปารา. ๑๙๔], เอถ ตุมฺเห อาวุโส สีลวา โหถ [อ. นิ. ๕.๑๑๔], จกฺขุมา อนฺธกา โหนฺติ, เย อิตฺถีนํ วสํ คตา [ชา. อฏฺฐ. ๒.๓.๓๖],           สํสุทฺธปญฺญา กุสลา มุติมา ภวนฺติ [สุ. นิ. ๘๘๗ (สํสุทฺธปญฺญา กุสลา มุตีมา)]ฯ
บางแห่ง แปลง นฺตุ เป็น อ เพราะโยปฐมาวิภัตติ เช่น
วคฺคุมุทาตีริยา ปน ภิกฺขู วณฺณวา โหนฺติ [วิ.มหา.๒/๓๐๕ (สยาม],
ส่วนภิกษุพวกฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา เป็นผู้มีน้ำนวล

เอถ ตุมฺเห อาวุโส สีลวา โหถ [อํ.ปญฺจ.๒๒/๑๑๔ (สยาม)],
ท่านผู้มีอายุ ท่านทั้งหลายมานี่เถิด, จงเป็นผู้มีศีล.

จกฺขุมา อนฺธกา โหนฺติ, เย อิตฺถีนํ วสํ คตา [มุทุปาณิชา.อ. - ล. ๓ ภ. ๕ ข.๓๘๕ แปลมมก.]
ชนผู้ตกอยู่ในอำนาจของหญิง มีตาก็เป็นคนตาบอด.

สํสุทฺธปญฺญา กุสลา มุติมา[2] ภวนฺติ [ขุ.สุ.๒๕/๔๑๙ (สยาม)]
ย่อมเป็นผู้มีปัญญาบริสุทธิหมดจด เป็นคนฉลาดเฉลียว มีความคิด

อิติ คุณวาทิคณราสิฯ
คุณวาทิคณะ (กลุ่มนามศัพท์มีคุณวนฺตุเป็นต้น) เป็นดังนี้


[1] สัททนีติสุตตมาลา สูตร ๒๕๒ สิมฺหิ กตฺถจิ (เพราะสิ แปลง อุ ของ นฺตุ เป็น อ ได้บ้าง) กล่าวว่า วิธีนี้ใช้ที่เป็นคาถา.
[2] ปาฐะฉบับฉัฏฐสังคายนาเดี๋ยวนี้เป็น มุตีมา, ฉบับสยามรัฐเป็น มตีมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น